สุดยอดกองหน้าฟอร์มแรง ในบอลโลกของ เบนฟิก้า
กอนซาโล รามอส เป็นนักเตะในตำแหน่งกองหน้าของ เบนฟิก้า ทีมดังในลีกสูงสุดของประเทศโปรตุเกส โดยที่เจ้าตัวนั้นเติบโตและเล่นฟุตบอลกับอคาเดมีของ เบนฟิก้า ตั้งแต่ในปี 2013 ด้วยอายุเพียง 12 ปี ก่อนที่จะสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้ในปี 2020 ในส่วนของเรื่องผลงานของ รามอส ถือว่าไม่ธรรมดา นับตั้งแต่เข้าขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า เขาทำไปแล้วทั้งหมด 28 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ จากการเล่นให้ทีมไป 80 นัด
โดยที่ฤดูกาลนี้ถือว่าเป็นฤดูกาลที่ดีของเขา หลังทำไปแล้ว 14 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ และที่เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับสโมสรต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ ส่วนหนึ่งนั่นเป็นเพราะว่า รามอส มีโอกาสได้ลงสนามและกลายเป็นกองหน้าตัวหลักอย่างต่อเนื่อง แทนที่ของ ดาร์วิน นูนเญซ อดีตดาวยิงของทีมที่ในฤดูกาลนี้ได้ย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษกับ ลิเวอร์พูล นั่นเอง ดาวรุ่งวัย 21 กะรัต ถือว่าเป็นนักเตะในแนวรุกที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง
ไม่ว่าจะเป็นตัวริมเส้น กองหน้าตัวเป้า หรือแม้กระทั่งเป็นเพลย์เมกเกอร์ นักเตะรายนี้ก็เคยทำให้เห็นมาแล้ว รามอส ไม่ได้มีจุดเด่นที่ความเร็ว แต่เขาถือว่าเป็นแนวรุกรูปร่างสูงใหญ่ที่สามารถพักบอล, เก็บบอล และไปกับบอลได้ดี ในขณะที่เรื่องการทำประตู ดาวยิงรายนี้ ถือว่าเป็นนักเตะที่มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลา หาโอกาสทำประตูเก่งไม่ว่าจะด้วยเท้าหรือว่าลูกโหม่ง อีกทั้ง เขายังสามารถยิงประตูได้ดีทั้งเท้าซ้ายและขวา กอนซาโล รามอส
แม้ว่าเขาจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เบนฟิก้า แต่เขาก็ค่อยได้รับโอกาสในทีมชาติชุดใหญ่มากนัก โดยที่ก่อนหน้านี้เขามีโอกาสได้ลงเล่นให้กับ ทีมชาติโปรตุเกส ชุดใหญ่ไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้นนั่นก็คือในเกมอุ่นเครื่องกับไนจีเรียในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้นและที่ รามอส มีชื่อติด ทัพฝอยทองชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 มาได้ก็เพราะว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าคนสำคัญของพวกเขาได้รับบาดเจ็บหนัก
จากทีมต้นสังกัดอย่าง ลิเวอร์พูล ทำให้โค้ชอย่าง ซานโตส เรียก รามอส มาติดทีมแทน แต่ถึงกระนั้น โอกาสในการลงสนามของ รามอส ในทัวร์นาเมนต์นี้ ถือว่าน้อยนิด เนื่องจากเขาเพิ่งจะได้ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมรอบแบ่งกลุ่มกับ กานา และ อุรุกวัย โดยที่ได้เล่นไปไม่ถึง 10 นาทีทั้งสองนัด ก่อนที่ในเกมล่าสุด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เขานั้นถูกส่งลงสนามครั้งแรก และทำได้ดีด้วยการซัดแฮตทริกกับอีก 1 แอสซิสต์
ช่วยให้ทีมชาติบ้านเกิดของเขาถล่มสวิตเซอร์แลนด์ไปได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจอกับทีมชาติ โมร็อกโก ต่อไป ซึ่งต้องมาติดตามกันต่อว่า จากผลงานที่สุดยอดของ รามอส ในเกมล่าสุด จะสามารถทำให้เขากลายเป็นกองหน้าตัวจริงของโปรตุเกสได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่
อ่านเพิ่มเติม ข้อมูลนักบอล